นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยถึงโครงการสนับสนุนครอบครัวอุปถัมภ์สำหรับการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่อยู่ในวาระท้ายและครอบครัวมีฐานะยากจนของกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) ว่า ปีงบประมาณ 2567 ทางกรม ผส. กระทรวง พม. ได้งบประมาณในการดูแลครอบครัวอุปถัมภ์ จำนวน 1,107 ครอบครัว เนื่องจากงบประมาณที่กระทรวง พม. ได้รับมาอย่างจำกัด ทำให้มีการร้องเรียนเข้ามาในขณะนี้ ซึ่งตนต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชนที่เรายังไม่สามารถดำเนินการได้ครบทุกครอบครัว ทั้งนี้ได้ดำเนินการขอเพิ่มงบประมาณปี 2568 ที่ต้องไปเร่งเจรจากับทางสำนักงบประมาณต่อไป

คุณสมบัติครอบครัวอุปถัมภ์

1. มีสัญชาติไทย

2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ หรือผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งมีความพร้อมและศักยภาพในการดูแลผู้สูงอายุ อาจได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการ เป็นราย ๆ ไป

3. มีที่อยู่อาศัยที่เป็นหลักแหล่ง และอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกับผู้สูงอายุ

4. ได้รับความยินยอมจากสมาชิกทุกคนในครอบครัวว่ามีความพร้อมในการคุ้มครองผู้สูงอายุ

5. ไม่เป็นผู้ต้องหาว่ากระทำผิดอาญา และอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวนหรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล

ขั้นตอนลงทะเบียนครอบครัวอุปถัมภ์รับ 3,000 บาท/เดือน

      สำหรับการขอเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ยื่นความประสงค์ได้ที่กรมกิจการผู้สูงอายุ หรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค หรือหน่วยงานที่อธิบดีประกาศกำหนด ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ให้ยื่นคำขอได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุที่อยู่ในจังหวัดนั้น ๆ โดยเตรียมเอกสารหลักฐานของผู้ยื่นคำขอที่ต้องแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ได้แก่ 

1. ทะเบียนบ้าน 

2. บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวประเภทหนึ่งประเภทใดที่มีเลขประจำตัวประชาชน 

3. รูปถ่ายหน้าตรง ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 1 รูป

ยื่นคำขอรับสิทธิได้ถึงวันที่ 15 พ.ค. 67 เพื่อเข้ารับพิจารณาคัดเลือกครอบครัวอุปถัมภ์

      นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ เกิดความเข้าใจผิดว่า จำนวนการยื่นขอรับสิทธิในหลายจังหวัดเริ่มเต็มแล้วนั้น ตนได้กำชับกับอธิบดี ผส. ให้เร่งชี้แจงไปยังหน่วยงานในสังกัดทุกจังหวัดแล้ว และต้องเรียนว่า ไม่มีเต็มแน่นอน เพราะเรารับหมด เพียงแต่ว่าต้องพิจารณาคัดเลือกเพียง 1,107 ครอบครัว ส่วนข้อมูลที่เหลือจะเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล เพื่อที่ว่าในอนาคตถ้าหากว่ามีเงินส่วนอื่นที่สามารถสมทบได้ หรือปีงบประมาณ 2568 ได้งบประมาณเพิ่มจะได้นำฐานข้อมูลเหล่านั้นมาดำเนินการให้เร็วยิ่งขึ้น 

       ทั้งนี้ เมื่อมีการยื่นคำขอรับสิทธิ  ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (สนง.พมจ.) จะเป็นผู้รับเรื่องคำขอรับสิทธิดังกล่าวจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ และส่งเรื่องมาที่ส่วนกลางเพื่อให้อธิบดี ผส. และเจ้าหน้าที่ ผส. พิจารณาคัดเลือกเพียง 1,107 ครอบครัว ตามเงื่อนไขสำคัญ โดยเงินที่จะได้รับการสนับสนุนจะเริ่มที่ 2,000 บาทต่อผู้สูงอายุ 1 คนต่อเดือน แต่ในบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น สามารถเพิ่มเงินได้ถึง 3,000 บาทต่อผู้สูงอายุ 1 คนต่อเดือน แต่ขอเน้นย้ำว่าเฉลี่ยแล้วจะได้รับเงิน 2,000 บาทต่อผู้สูงอายุ 1 คนต่อเดือน 

       สำหรับครอบครัวที่จะมีสิทธิได้รับเงินครอบครัวอุปถัมภ์นั้น ผู้สูงอายุที่จะดูแลจะต้องมีฐานะยากจน ไม่มีผู้ดูแล เช่น ถูกทอดทิ้ง อยู่เพียงลำพัง รวมไปถึงถ้าหากว่าบุตรหรือญาติไม่สามารถเลี้ยงดูแลได้ เพราะไม่มีรายได้เพียงพอ เป็นต้น ความยากจนเหล่านี้จะเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญที่จะติดต่อขอรับเงินช่วยเหลือ ทั้งนี้ สามารถติดต่อยื่นคำขอรับสิทธิจนถึงวันที่ 15 พ.ค. 67 และคาดว่า จะพิจารณาคัดเลือกให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน พ.ค. 67 เพื่อให้เงินถึงมือครอบครัวอุปถัมภ์โดยเร็วที่สุด