นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจยกระดับวิถีชีวิตประชาชนของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการกำหนดแนวทางจนเกิดเป็นผลความสำเร็จ โดยได้ประกาศข่าวดีสำหรับผู้ใช้แรงงานไทย เตรียมปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาททั่วประเทศ จะเป็นการทยอยปรับขึ้นเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2567 นี้
หารือไตรภาคี 14 พ.ค.นี้ เตรียมความพร้อม
กระทรวงแรงงาน จะนำประเด็นเรื่องการปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวันเท่ากันทั่วประเทศ เข้าหารือ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง หรือไตรภาคี ในวันที่ 14 พฤษภาคม นี้ เพื่อศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ว่ากิจการใดมีความพร้อมหรือยังไม่พร้อม และถ้าหากยังไม่พร้อม ต้องทำอย่างไรให้พร้อม ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 5 - 6 เดือน ในการประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ยังไม่พร้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ประกอบการประเภท SME ที่เป็นผู้ถือครองจำนวนแรงงานมากที่สุด
เดินเครื่องปรับค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ หลังนำร่อง 10 จังหวัด
เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นำร่องในพื้นที่ 10 จังหวัดท่องเที่ยว อัตราวันละ 400 บาท ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ให้มีผลบังคับใช้วันที่ 13 เมษายน 2567 ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ชุดที่ 22 (26 มีนาคม 2567) เห็นชอบการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ประเภทกิจการโรงแรม สำหรับนายจ้างและลูกจ้างที่ทำงานในสถานประกอบการประเภทกิจการโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป ที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป ในพื้นที่ 10 จังหวัด
ปรับเงินเดือนแรกบรรจุกลุ่ม ขรก.พลเรือน - เจ้าหน้าที่ของรัฐ
นอกจากนี้ ยังปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุในกลุ่มข้าราชการพลเรือน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 มีผลบังคับใช้เเล้ว เป็นปีที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 และปีที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 โดยรัฐบาลจะทยอยปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิ ได้เเก่
• ผู้ที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับปริญญาตรีจะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 18,000 บาท
• ผู้ที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับ ปวช. จะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 11,000 บาท ภายใน 2 ปี
• ปรับอัตราเงินเดือนของคุณวุฒิอื่น ๆ ให้สอดคล้องกัน รวมทั้งปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุดังกล่าวภายในช่วงระยะเวลาเดียวกันด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า นายกฯ ให้ความสำคัญสูงสุดกับคุณภาพชีวิตของพี่น้องคนทำงาน ซึ่งทุกคนควรมีเงินเดือน ค่าแรงที่เป็นธรรม ลูกจ้างอยู่ได้ นายจ้างอยู่ได้ เศรษฐกิจดี รวมทั้งสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาตลอด คือความปลอดภัยในการทำงาน การเข้าถึงระบบสวัสดิการ การคุ้มครอง หลักประกันทางสังคมที่เหมาะสม
ดูแลภาคแรงงานในทุกมิติ
กระทรวงแรงงาน ได้ดำเนินนโยบาย สร้างเสริมคุณภาพชีวิตให้แรงงานทุกคนมีสุขภาพดี มีรายได้ มีความมั่นคง
เดินหน้าปฏิบัติตามอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ
กระทรวงแรงงาน ได้แต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการให้สัตยาบัน ต่ออนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ