นิตยสาร CEOWORLD ยกไทยอันดับ 1 ประเทศน่าเยี่ยมชมที่สุดประจำปี 2024

นิตยสาร CEOWORLD เก็บข้อมูลจากความเห็นผู้อ่าน 295,000 คน จัดให้ไทยเป็นอันดับ 1 ประเทศที่น่าเยี่ยมชมที่สุดประจำปี 2024 (World’s Best Countries To Visit In Your Lifetime 2024) ตามด้วยกรีซ และอินโดนีเซีย

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี    และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอบคุณทุกการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนไทยทุกคนที่เป็นเจ้าภาพที่ดีจนไทยได้รับการจัดให้เป็นอันดับ 1ประเทศที่น่าเยี่ยมชมที่สุดในปี 2024 (World’s Best Countries To Visit In Your Lifetime, 2024) รวมทั้ง เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงทุกปัจจัยที่ส่งเสริมศักยภาพด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย

การจัดอันดับในครั้งนี้ ดำเนินการโดยนิตยสาร CEOWORLD ซึ่งเป็นนิตยสารด้านธุรกิจชื่อดัง โดยใช้วิธีจัดอันดับโดยการเก็บข้อมูลความคิดเห็นจากผู้อ่านมากกว่า 295,000ราย ที่มีต่อ 67 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ และประเทศไทยได้รับการจัดอันดับเป็นประเทศที่น่าเยี่ยมชมที่สุด เป็นอันดับ 1 (World’s Best Countries To Visit In Your Lifetime) ในปีนี้ ด้วยคะแนนร้อยละ 72.15

โดยทางนิตยสารได้ระบุว่า การท่องเที่ยวในประเทศไทย ทำให้ได้รับประสบการณ์ท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น สีสันยามค่ำคืน อาหารอร่อย ศิลปะและวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา แหล่งชอปปิ้งที่ขึ้นชื่อ แม่น้ำลำคลองที่คดเคี้ยวอย่างสวยงาม วัดของศาสนาพุทธ ตลาดกลางคืน ตลาดน้ำ และ สวนสาธารณะสุดพิเศษ

สำหรับผลการจัดอันดับประเทศที่น่าเยี่ยมชมที่สุดประจำปี 2024 โดยนิตยสาร CEOWORLD         ที่น่าสนใจ 10 อันดับแรก มีดังนี้

1.ประเทศไทย ได้คะแนนร้อยละ 72.15

2.กรีซ ร้อยละ 67.22

3.อินโดนีเซีย ร้อยละ 65.15

4.โปรตุเกส ร้อยละ 64.32

5.ศรีลังกา ร้อยละ 60.53

6.แอฟริกาใต้ ร้อยละ 59.76

7.เปรู ร้อยละ 59.76

8.อิตาลี ร้อยละ 57.77

9.อินเดีย ร้อยละ 57.65

10.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร้อยละ 57.38

 

 

 

 

 

รัฐบาล ชู ไทยเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว 1 ใน 8 วิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประกาศวิสัยทัศน์ Thailand Vision “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” มุ่งเป้าพัฒนาประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน ครอบคลุมทั้งการท่องเที่ยว การรักษาพยาบาลและสุขภาพ อาหาร การบิน การผลิตยานยนต์แห่งอนาคต เทคโนโลยี และการเงิน

โดยวิสัยทัศน์แรก รัฐบาล ประกาศตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว (Tourism Hub) เฟ้นหา Soft Power ชูจุดขายเป็นเสน่ห์ของไทย อำนวยความสะดวก ปลดล็อกทุกข้อจำกัดการท่องเที่ยว ผ่านการเปิดฟรีวีซ่าในหลายประเทศ เป็นศูนย์กลางการเดินทางในภูมิภาค และใน CLMV ส่งเสริมต่อยอดเมืองหลัก เมืองรองต้องพัฒนาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว แก้ไขกฎ ระเบียบ ที่เป็นอุปสรรค เช่น เวลาเปิดปิดของสถานบริการ การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงแก้ไขภาษีสำหรับการจัดงานหรือแข่งขันต่าง ๆ รองรับการเป็น Homestay ของคนทั่วโลก

 

รัฐบาล ผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวของภูมิภาค หรือ Tourism Hub

การเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวของภูมิภาค หรือ Tourism Hub ถือเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์ประเทศไทยที่รัฐบาลมุ่งนำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในทุกมิติ โดยในปีนี้รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายรายได้ทางการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท และจะทวีเพิ่มมากขึ้นในปีต่อ ๆ ไป ด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ คือ 

➢ กลยุทธ์ที่ 1 การยกระดับประสบการณ์โปรโมทการท่องเที่ยวไทยในทุกมิติ ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยก่อนการเดินทาง ให้ข้อมูลสำคัญกับนักท่องเที่ยวตั้งแต่บนเครื่องบิน      เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการในสนามบิน สร้างความประทับใจด้วยมัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยวที่มีมาตรฐาน สร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงด้วย 1155 Call Center และยกระดับ UCEP ในการคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตให้ครอบคลุมนักท่องเที่ยว

➢ กลยุทธ์ที่ 2 การชูเอกลักษณ์ไทย หรือ เสน่ห์ไทย นำเสนอเรื่องราว และเพิ่มมูลค่าด้วยการนำจุดแข็งทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมมาเป็นจุดขาย ได้แก่ Must Beat มวยไทย, Must Eat อาหารไทย, Must Seek วัฒนธรรมไทย, Must Buy ผ้าไทย และ Must See โชว์ไทย 

➢ กลยุทธ์ที่ 3 เมืองหลัก และเมืองน่าเที่ยว เชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองใกล้เคียง อาทิ เส้นทาง Lanna Culture เชียงใหม่ - ลำพูน – ลำปาง เส้นทาง UNESCO Heritage Trail มรดกไทย มรดกโลก ผ่านเส้นทางสุโขทัย-กำแพงเพชร และ นครราชสีมา         เส้นทาง NAGA Legacy นครพนม สกลนคร บึงกาฬ ตามรอยตำนานศรัทธาพญานาคเส้นทาง Paradise Islands ตรัง-สตูล หมู่เกาะแห่งอันดามันใต้ สวรรค์แห่งท้องทะเล เส้นทาง The Wonder of Deep South ปัตตานี - ยะลา - นราธิวาส ใต้สุดแห่งสยาม มนต์เสน่ห์แห่งพหุวัฒนธรรม

 

 

➢ กลยุทธ์ที่ 4 Hub of ASEAN เปิดประตูการท่องเที่ยวสู่อาเซียนให้สามารถเชื่อมโยงการเดินทางกับประเทศเพื่อนบ้าน เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานให้การเดินทางท่องเที่ยว ไร้รอยต่อ 

➢ กลยุทธ์ที่ 5 World Class Event Hub ไทยเป็นศูนย์รวม World Class Experience     จากการนำ Event ระดับโลกเข้ามาจัดแสดงในประเทศ ทั้งด้านดนตรี กีฬา อาหาร ไลฟ์สไตล์ ศิลปและวัฒนธรรม อาทิ จัดงานวิสาขบูชาโลก ประจำปี 2567 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพSummer Sonic Bangkok 2024, KAWS Arts, Moto GP, Volleyball World Championship เป็นต้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้และชื่อเสียงให้กับประเทศ

 

รัฐบาล เร่งยกระดับมาตรฐานการบริการจัดการ “เมืองไทยปลอดภัย” ผ่านโครงการ “ช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่บาดเจ็บและเสียชีวิต”

​กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเห็นชอบในหลักการให้ใช้จ่ายงบประมาณ รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 50 ล้านบาท ในการดำเนินโครงการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว กรณีประสบเหตุในประเทศไทย ทั้งในกรณีเกิดอุบัติเหตุ อาชญากรรม และภัยด้านอื่น ๆ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – วันที่ 31 สิงหาคม 2567 

➢ กรณีเสียชีวิตจะได้รับค่าชดเชยไม่เกิน 1,000,000 บาทต่อราย 

➢ กรณีเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน จะได้รับค่ารักษาพยาบาลจ่ายตามจริงไม่เกิน 500,000 บาทต่อราย 

➢ สูญเสียอวัยวะถาวร สูญเสียดวงตา และทุพพลภาพถาวร จะได้รับค่าชดเชยแบบเหมาจ่ายเป็นจำนวนเงิน 300,000 บาทต่อราย


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar